TOEIC. นั้นย่อมาจากคำเต็มๆว่า Test of English for International
Communication
เป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับบุคคลที่จะต้องทำงานในตำแหน่งหรือในสภาพแวดล้อม
ที่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ โดยการสอบ TOEIC นั้นจะไม่คำนึงถึงความรู้
หรือคำศัพท์เฉพาะทางในแต่ละ สาขาอาชีพ ซึ่งคะแนนผลการสอบ TOEIC นั้นจะถูกนำมาใช้โดยหลายๆ องค์กร หรือ
บริษัท เป็นตัวชี้วัดความสามารถทาง ด้านภาษาอังกฤษของแต่ละบุคคล เพื่อใช้ในการคัดสรรบุคคลเข้าทำงาน,
การมอบตำแหน่งที่เหมาะสม, การเลื่อนตำแหน่ง
หรือ การปรับเงินเดือน
ประเภทของการสอบ TOPEIC
การสอบ TOEIC มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทคือ การสอบ Listening & Reading และ การสอบ Speaking & Writing
ซึ่งหากเข้าสอบครบทั้งสองประเภทแล้ว การประเมินผลทางด้านภาษาของผู้สอบก็จะถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น
แม้ว่าจะการ สอบถึงสองประเภท แต่เมื่อเราพูดถึงการสอบ TOEIC แล้วมักจะหมายถึงคะแนนจากการสอบ Listening &
Reading เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากว่าการสอบ Listening & Reading มีการเข้าทดสอบที่ง่าย, สะดวก
และได้รับผลสอบที รวดเร็ว ส่วนด้านการสอบ Speaking & Writing
นั้นมีขั้นตอนในการสมัครสอบที่ยุ่งยากทำให้บริษัทและองค์กรต่างๆ
จึงไม่นิยมนำคะแนนจากการสอบประเภทนี้ไปใช้ ดังนั้นในที่นี้จะขอพูดถึงการสอบ Listening & Reading
เท่านั้น
การสอบ Listening & Reading
ข้อสอบ TOEIC Listening & Reading นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันนั่นคือ
1. Listening Part
2. Reading Part
โดยแต่ละส่วนนั้นจะมีข้อสอบส่วนละ 100 ข้อ รวมสองส่วนเป็น 200 ข้อ และมีคะแนนเต็มส่วนละ 495 คะแนน
รวมสอง ส่วน 990 คะแนน เวลาที่ใช้ทำข้อสอบทั้งหมดคือประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที โดยแบ่งเป็นส่วน Listening
45 นาที และ 75 นาที สำหรับ Reading นอกจากนี้แต่ละส่วนยังแบ่งข้อสอบออกเป็นส่วนย่อยๆ อีก รวม 7 part
โดยในส่วนของ Listening นั้นจะแบ่งข้อสอบออกเป็น 4 ส่วนย่อย ได้แก่
Part 1: Photographs 10 ข้อ เป็นข้อสอบดูภาพและฟังตัวเลือกว่า ข้อไหนอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพนั้นๆ
Part 2: Question-Response 30 ข้อ เป็นข้อสอบที่ผู้สอบต้องเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมจะใช้ตอบสนองกับคำถาม
ซึ่งผู้สอบ
จะต้องฟังทั้งคำถามและตัวเลือกต่อเนื่องกัน
Part 3: Conversation 30 ข้อ เป็นการฟังบทสนทนาระหว่างบุคคลสองคน
เพื่อตอบคำถามโดยผู้สอบจะต้องฟังเพียงแค่ตัว
บทสนทนาแต่คำถามและตัวเลือกนั้นจะมีในกระดาษคำถามแล้ว
Part 4: Short Talk 30 ข้อ จะมีลักษณะเหมือนกับ Part 3 แต่ทว่าจะเป็นการฟังบทพูดของคนๆ เดียว
เพื่อตอบคำถาม
โดยผู้สอบจะต้องฟังเพียงแค่ตัวบทพูด เพราะคำถามและตัวเลือกนั้นจะมีในกระดาษคำถามแล้ว
ในส่วนของ Reading นั้นจะก็แบ่งข้อสอบออกเป็น 3 ส่วนย่อย ได้แก่
Part 5: Incomplete Sentences 40 ข้อ เป็นสอบเติมคำในช่องว่าง โดยคำถามจะเป็นประโยคสั้นๆประโยคเดียว
Part 6: Text Completion 12 ข้อ เป็นข้อสอบเติมคำในช่องว่างเช่นเดียวกัน แต่จะต่างกันตรงที่ว่า
ส่วนนี้จะเป็นบทความ
ยาวๆ ที่มีคำถามหลายๆ ข้อในบทความเดียว
Part 7: Reading Comprehension 48 ข้อ เป็นข้อสอบอ่านเนื้อเรื่องแล้วตอบคำถาม
โดยตัวเนื้อเรื่องนั้นจะแบ่งออกเป็น
2 แบบ คือ แบบตอนเดียว กับ แบบ2ตอน หรือสองเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ประกาศรับสมัครงาน กับ
จดหมายสมัครงาน
How to apply for TOEIC test
โดยปกติแล้วการสอบ TOEIC จะถูกจัดสอบเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ ที่Center for
Professional
Assessment (Thailand) ทั้งสาขาที่กรุงเทพฯ และ เชียงใหม่ ยกเว้นวันหยุด
ซึ่งสามารถเช็คได้จากเว็บไซต์ของศูนย์สอบ
จองที่นั่งสอบ
ผู้ที่ต้องการจะเข้าสอบจำเป็นต้องทำการจองที่นั่งสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 1
วันทำการก่อนที่จะถึงวันสอบโดยการ โทรศัพท์ไปยัง Call Center ที่หมายเลข 02-260-7061, 02-259-3990
สำหรับสาขากรุงเทพฯ และ 053-248-208,
053-241-273-5
สำหรับสาขาเชียงใหม่ หรือจะเข้าไปจองด้วยตัวเองที่สำนักงานทั้งสองสาขาเลยก็ได้ และเมื่อคุณทำการจอง
ที่นั่งสอบ คุณจะต้องให้ข้อมูลดังต่อไปนี้
- หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
- ชื่อ และ นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ
- วันเดือนปีเกิดของคุณ
- หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ
- วันที่ต้องการทำการสอบ
- เวลาที่ต้องการทำการสอบ โดยปกติการสอบจะจัดขึ้น 2 ครั้งใน 1 วัน ในเวลา 9 โมงเช้า และบ่ายโมง
วันสอบ
ในวันสอบ คุณจะต้องเตรียมสิ่งของเหล่านี้มาด้วย
1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
2. ค่าสอบ (ล่าสุดที่เช็คคือ 1500 บาท ต่อการสอบ Listening & Reading 1 ครั้ง)
คุณจำเป็นที่จะต้องมาให้ถึงก่อนเวลาสอบ เนื่องจากว่าคุณจะต้องทำการลงทะเบียนก่อนที่จะทำการสอบ
โดยแนะนำว่าควรมา ให้ถึงก่อนเวลาทำการสอบอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะว่า จะมีคนอีกจำนวนมากที่เขาก็มาสอบ
TOEIC เช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้ การลงทะเบียนอาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร
สิ่งของที่ห้ามนำเข้าห้องสอบ
จะมีสิ่งของหลายๆอย่างถูกห้ามนำเข้าไปในห้องสอบ สิ่งของเหล่านั้นได้แก่
- กระเป๋าทุกรูปแบบ ยกเว้นกระเป๋าสตางค์
- โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ด และ อุปกรณ์บลูทูธทุกประเภท
- คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์Tablet และ เครื่องคิดเลข
- เครื่องเล่น MP3, MP4 และ อุปกรณ์ประเภท USB
- กุญแจ และของมีคมทุกประเภท เช่น กรรไกร หรือ มีด
- กระดาษ, สมุด และ หนังสือ
- กล่องดินสอ และกล่องอื่นๆที่มีลักษณะเช่นเดียวกัน รวมไปถึงแก้วน้ำ
- บุหรี่, ไฟแช็ก และ ไม้ขีด
- อาหาร, น้ำ และ เครื่องดื่มทุกชนิด
ซึ่งถ้าหากคุณมีสิ่งของเหล่านี้ติดตัว ทางศูนย์สอบจะมีชั้นวางเอาไว้ให้วางสิ่งของเหล่านี้
โดยมีคำแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพกสิ่งของเหล่านี้ติดตัวมาในวันสอบ หรือ
หาเพื่อนมาช่วยถือของเหล่านี้ระหว่างที่คุณทำการสอบจะดีกว่า
เครื่องเขียน
คุณไม่จำเป็นจะต้องเตรียมเครื่องเขียนไปเอง เพราะศูนย์สอบจะจัดเตรียมเครื่องเขียนอันได้แก่ ดินสอ 2B,
ปากกา และยางลบ แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการจะนำสิ่งของเหล่านี้ไปเองก็สามารถทำได้
แต่อย่าลืมว่ากล่องดินสอนี่ห้ามนำเข้าห้องสอบนะครับ
ผลสอบ
ผลสอบ TOEIC นั้นเราสามารถไปรับได้ทันทีหลังวันสอบ 1 วัน เช่นสอบวันจันทร์
วันอังคารก็สามารถไปรับผลสอบได้แล้ว ยกเว้นถ้าคุณทำการสอบในวันเสาร์
คุณจะสามารถรับผลสอบได้ในวันอังคารถัดไป(ไม่ใช่วันจันทร์) โดยคุณสามารถไปรับผล
ด้วยตัวเองได้ที่ศูนย์สอบได้ทุกวันทำการ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.30 น.
หรือถ้าหากคุณต้องการให้ศูนย์สอบส่งผลสอบให้คุณ ทางจดหมายก็สามารถทำได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าส่ง EMS
ประมาณ 50 บาทสำหรับส่งภายในประเทศ และคะแนนTOEIC นั้นมีอายุการใช้งาน 2 ปี นับจากวันที่สอบ พอเกิน 2
ปีไปแล้ว หากต้องการใช้คะแนน TOEIC ใหม่ก็จะต้องทำการ สอบใหม่
ที่ตั้งของศูนย์สอบ
กรุงเทพฯ
Center for Professional Assessment (Thailand)
TOEIC® Services
Suite 1907, Bangkok Business Building
54 Asoke Road Sukhumvit
Bangkok 10110 Thailand
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ
Center of Professional Assessment (Thailand) ที่
http://cpathailand.co.th/
Facebook Fanpage
Center of Professional
Assessment (Thailand)